“อยากเป็นหมอ” ประโยคในโฆษณาดังที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกัน 

แต่รู้หรือไม่ว่า สำหรับ Gen Alpha แล้ว ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป และระดับความเจ๋งของแต่ละอาชีพในความคิดของ Gen Alpha มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

 

จากสถิติพบว่า 65% ของ Gen Alpha ต้องการทำงานในอาชีพที่ยังไม่มีในปัจจุบัน (ข้อมูล จาก McCrindle)

ถือเป็นสถิติที่น่าสนใจ และแตกต่างจาก Generation อื่น ๆ ที่มักจะมีกรอบความคิดเรื่องอาชีพที่มีอยู่แล้วในสังคม มาดูกันดีกว่าว่า แล้ว Gen Alpha คือใคร อาชีพอะไรบ้างที่คนเจนนี้อยากเป็น และอะไรที่ส่งผลให้มีความคิดเช่นนั้น…

 

Gen Alpha คือใคร…

Gen Alpha คือ ผู้ที่เกิด ค.ศ. 2010 – 2024 ซึ่ง Gen Alpha ที่โตสุดในตอนนี้ คือ อายุ 13 ปีเท่านั้น

พูดให้นึกภาพง่าย Gen Alpha คือ คนที่เกิดมาในช่วงที่ Instagram เพิ่งปล่อยออกสู่ตลาดนั่นเอง เรียกได้ว่า เกิดมาก็มี Social Media มากมายอยู่รอบตัวแล้ว และ Gen Alpha ส่วนใหญ่จะเป็นลูกของคนรุ่น Millennials นั่นเอง ทำให้พฤติกรรมบางอย่าง อาจได้รับอิทธิพลมาจากการเลี้ยงดูจากคนรุ่น Millennials ด้วย

 

มาดูกันดีกว่าว่า แล้วอาชีพอะไรที่ Gen Alpha ให้ความสนใจ และเป็นอาชีพที่ส่วนใหญ่ยังไม่มีในปัจจุบัน (1)

 

จะเห็นได้ว่า ทั้ง 15 อาชีพนี้ ล้วนเป็นอาชีพที่ไม่คุ้นหูคุ้นตาทั้งสิ้น และเป็นอาชีพที่สอดคล้องกับเทรนด์สังคมในปัจจุบัน เช่น เรื่อง AI ที่กำลังมาแรง และเรื่อง Wellness หรือเรื่องความยั่งยืนต่าง ๆ ที่มีมานานแล้ว แต่ถูกยกระดับความสำคัญขึ้นในช่วงหลังมานี้

 

อยากชวนคิดกันต่อว่า อะไรที่ส่งอิทธิพลทำให้ Gen Alpha มีภาพอาชีพที่ตนต้องการทำในอนาคตเป็นดัง 15 อาชีพข้างต้น

 

ขอย่อยออกมาเป็นประเด็นดังนี้

 

1. เพราะ Gen Alpha ผูกพันกับเทคโนโลยีตั้งแต่จำความได้

Gen Alpha ส่วนใหญ่จะเป็นลูกของ Gen Millennials ที่มีการใช้เทคโนโลยี และ Social Media ในชีวิตประจำวัน ทำให้ Gen Alpha มีความเคยชินกับเทคโนโลยี บางคนอาจมีเพื่อนสนิทเป็น Smartphone เลยก็ว่าได้

มีสถิติกล่าวว่าพ่อแม่ Gen Millennials 6% สร้างบัญชี Social Media ให้กับลูกตัวเอง และกว่า 79% ของคุณแม่ Gen Millennials มีการใช้ Social Media เป็นประจำในชีวิตประจำวัน (ข้อมูลจาก BabyCenter)

 

อีกประเด็นสำคัญคือ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เพิ่มประสบการณ์หรือยกระดับการใช้ชีวิตในแง่ต่าง ๆ เช่น Virtual Reality, AI และอื่น ๆ อีกมากมายที่ Gen Alpha มีสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น

 

สิ่งเหล่านี้ จึงส่งอิทธิพลต่อ Gen Alpha ให้เคยชินกับเทคโนโลยี Smartphone และ Social Media 

จึงเป็นการสร้างแนวความคิดว่าอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเทคโนโลยีอยู่รอบตัวตลอดเวลา ทำให้มีความคิดอยากเป็น UX Manager, Virtual Reality Engineer, Robotics Mechanic หรือ AI Specialist เป็นต้น

 

 

2. เพราะ Gen Alpha มี Global Connectivity สูง ทำให้ตระหนักถึง Global Challenges ตั้งแต่ยังเด็ก

ต่อเนื่องจากข้อที่ 1 ที่ Gen Alpha เคยชินกับการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ทำให้ประเด็นสำคัญต่าง ๆ ระดับโลก อาจผ่านตาเป็นระยะ รวมถึงการพูดถึงเรื่อง Global Issues และ Global Trends ที่ถูกยกระดับความสำคัญมากขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการปลูกฝังให้อยากสร้าง Impact ที่มีความหมายต่อโลก และสังคม

 

อย่างเช่น อาชีพ Sustainability Officer ที่ดูแลเกี่ยวกับความยั่งยืนในองค์กร ที่มีจุดเริ่มต้นจากการยกระดับความสำคัญกับประเด็นเรื่องความยั่งยืน ซึ่งเป็นที่พูดถึงทั่วโลกในเรื่องโลกร้อน โลกเดือด รวมถึงข่าวต่าง ๆ ที่สร้างความสนใจในวงกว้าง เช่น การทัวร์อวกาศ หรือรถยนต์ไร้คนขับ ทำให้เกิดแนวคิดอาชีพ Space Tourism Agent และ Driverless Train Operator เป็นต้น

 

 

3. เพราะ Gen Alpha มีความตระหนักรู้เรื่องสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี (Health and Wellness) 

เรื่อง Health & Wellness ดูเป็นเรื่องที่จะไกลความสนใจจากเด็กอายุ 10 กว่าขวบใน Generation ก่อน ๆ แต่สำหรับ Gen Alpha ที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยวัย Millennials ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มี Health Conscious และการมี Lifestyle ที่ Healthy รวมถึงต้องการจัดสรรเวลาให้เหมาะสมระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว (2)

 

อีกทั้ง Gen Alpha เติบโตมาในสังคมที่มีกระแสเรื่องการดูแลสุขภาพ และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากมาย ที่คนเลี้ยงดูมักใช้เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น มี Fitness App กระแส Healthy Food หรือ Influencer ด้านสุขภาพมากมาย ส่งผลให้มีอิทธิพลต่อความคิดอาชีพในอนาคตของ Gen Alpha เช่น เกิดอาชีพว่า Wellness Manager ขึ้น ที่ทำหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในทุกแง่มุม ซึ่งโดยทั่วไปอาจควบรวมหน้าที่อยู่กับฝ่าย HR  แต่ Gen Alpha ต้องการสร้างความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

 

 

4. เพราะ Gen Alpha ถูกสอนมาแตกต่างจาก Generation อื่น ๆ

หากพูดถึงเรื่องการศึกษาของ Gen Alpha จะเห็นได้ชัดว่า มีความเฉพาะบุคคล หรือ Personalize มากขึ้น ไม่ว่าจะมาจากการสอนแบบออนไลน์ ทำให้ตอบโจทย์ความสนใจของแต่ละกลุ่มคนมากขึ้น การแบ่งสายการเรียน เลยไม่จำเป็นต้องแบ่งเป็นเพียง สายวิทย์ และสายศิลป์ เหมือนเมื่อก่อน

 

นอกจากนี้ Gen Alpha สามารถเข้าถึง Online Resource ได้มากกว่าคนเจนอื่น ๆ จึงมีทางเลือกมากขึ้น และเกิดการศึกษานอกห้องเรียนได้ง่ายกว่าเจนอื่น เกิดความเปิดกว้างในการหาความรู้และศึกษาเรื่องที่ตนเองสนใจเป็นพิเศษ 

 

ทำให้อาจสร้างความสนใจในอาชีพที่ค่อนข้างเจาะจงตามความสนใจเฉพาะทาง เช่น 

Life Simplifier หรือการช่วยดูแลเรื่องการจัดการชีวิตในมิติต่าง ๆ ในระดับบุคคล

Urban Farmer หรือการทำเกษตรกรรมในเขตเมือง ที่อาจเป็นแนวทางในอนาคตในการทำเกษตรกรรม

และ Sleep Technician หรือการ Monitor แบบแผนในการนอน ว่าพบความผิดปกติหรือไม่

 

จากอิทธิพลต่าง ๆ ที่กล่าวไปข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น การเลี้ยงดู ความเคยชินกับเทคโนโลยีตั้งแต่จำความได้ การมี Global Connectivity สูง การให้ความสำคัญเรื่อง Health & Wellness และรูปแบบการศึกษาที่มีความพัฒนา ทำให้ Gen Alpha มีแนวคิดเรื่องอาชีพในอนาคตที่แตกต่างจาก Generation อื่น ๆ และถ้าในแง่ขององค์กร คือ องค์กรต้องตระหนักว่า Gen Alpha มีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพื่อรองรับการเข้าทำงานของเจนนี้ในอนาคตที่จะถึงนี้

#PWG #PragmaandWillGroup #Generation #GenAlpha #GenerationGap

 

 

(1) The Future of Commerce. (2023). Welcome to Generation Alpha: Definition, Stats, Prediction. สืบค้นจาก  The Future of Commerce

 

(2) Employee Benefits. (2018). How Generation Alpha will shape wellbeing. สืบค้นจาก Employee Benefits

 

 

ติดตามบทความต่อไปที่เกี่ยวข้อง

• ถอดรหัส 5 ตัวอย่างคนรุ่นใหม่ ที่มี Visionary Mindset Read More
• Generation Gap หนึ่งในความท้าทายในที่ทำงาน Read More
• ถอดบทเรียน จากบาร์บี้เวอร์ชันต้นฉบับ ที่สนับสนุนการ Empower ผู้หญิงในมุมมองต่าง ๆ Read More

หากมีข้อสงสัยเรื่อง People & Organization สามารถติดต่อ Pragma and Will Group ได้ผ่านช่องทางด้านล่างนี้