ผลสำรวจจากบริษัท Eightfold AI ระบุว่า 92% ของผู้นำด้าน HR มีแผนที่จะเพิ่มการใช้งาน AI ในอย่างน้อยหนึ่งด้านของงาน HR ภายในปี 2024

 

 

ในโลกของธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การบริหารจัดการ HR อย่างมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรสามารถอยู่รอดและประสบความสำเร็จได้

 

ด้วยการเข้ามาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในวงการ HR  กระบวนการต่าง ๆ ในงาน HR กำลังได้รับการปฏิวัติอย่างสิ้นเชิง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิธีการทำงานและการตัดสินใจ

 

ในบทความนี้ จะพาไปสำรวจโอกาสของ AI ในงาน HR พร้อมทั้งเปิดมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ AI ในงาน HR

 

 

การเติบโตและ ความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ AI ในวงการ HR

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยี AI ได้แพร่หลายเข้าสู่วงการ HR อย่างรวดเร็ว โดยมีองค์กรจำนวนมากเริ่มนำ AI มาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความแม่นยำในกระบวนการต่าง ๆ ของงาน HR ไม่ว่าจะเป็นการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน (Recruitment and Selection) การบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management) การพัฒนาพนักงาน (Learning and Development) และการวางแผนกำลังคน (Workforce Planning)

 

ผลสำรวจจากบริษัท Eightfold AI ระบุว่า

92% ของผู้นำด้าน HR มีแผนที่จะเพิ่มการใช้งาน AI ในอย่างน้อยหนึ่งด้านของงาน HR ภายในปี 2024

 

นอกจากนี้ รายงานจาก IDC ยังคาดการณ์ว่า

ภายในปี 2024 บริษัทชั้นนำระดับโลกถึง 80% จะใช้ระบบ AI ในการจ้างงาน วางแผนกำลังคน และการฝึกอบรมพนักงาน

 

 

โดย Top 5 Function ที่ฝ่าย HR นำ AI เข้ามาใช้ ได้แก่

 

• Employee records management ถึง 78%
• Payroll processing and benefits administration ถึง 77%
• Recruitment and hiring ถึง 73%
• Performance management ถึง 72%
• Onboarding ถึง 69%

 

จากข้อมูลเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการ HR มากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานด้าน HR จึงจำเป็นต้องเรียนรู้และปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อให้สามารถนำ AI มาใช้ประโยชน์ในการยกระดับประสิทธิภาพของงาน HR ได้อย่างเต็มที่

 

 

ตัวอย่างด้านที่ AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการงาน HR

 

AI สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในหลายด้านของงาน HR ทั้งในส่วนของการปฏิบัติการและการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และการตัดสินใจที่ดีขึ้น ดังนี้

 

 

1. ยกระดับการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน (Sourcing and Selection)

 

การสรรหาและคัดเลือกพนักงานเป็นหนึ่งในกระบวนการแรก ๆ ที่นำ AI มาใช้ในงาน HR โดยระบบ AI สามารถช่วยค้นหาและคัดกรองผู้สมัครงานที่มีคุณสมบัติตรงตามที่องค์กรต้องการได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสรรหาลงได้มากทีเดียว

 

ตัวอย่างการใช้งาน AI ในขั้นตอนการสรรหาและคัดเลือก ได้แก่

 

• ค้นหาผู้สมัครงานที่มีประสบการณ์และ Capability ตรงตามที่ต้องการจากฐานข้อมูลออนไลน์ต่าง ๆ
• วิเคราะห์และจัดอันดับจาก Resume ของผู้สมัครงาน
• สร้างคำถามสัมภาษณ์ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละตำแหน่งงาน
• ประเมินผลการสัมภาษณ์ และจากแบบทดสอบให้สอดคล้องกับตำแหน่งงานอย่างมีมาตรฐาน
• ช่วยลดกระบวนการ และสร้างความอัตโนมัติ เช่น ช่วยโพสต์งานลงตาม Job Board ที่มีอยู่ให้ครอบคลุมที่สุด ช่วยนัดสัมภาษณ์ระหว่างผู้สมัครกับผู้สัมภาษณ์ เป็นต้น

 

 

2. ช่วยลดงานที่ซ้ำซ้อน ทำให้ HR ได้ใช้เวลาในเชิงกลยุทธ์มากขึ้น

 

ระบบ AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงาน HR ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การสรรหา และคัดเลือกพนักงานข้างต้น ที่สามารถนำกระบวนการบางอย่างมาทำ Automation ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ อีก เช่น

 

• จัดการข้อมูล

 

ฝ่าย HR จำเป็นต้องจัดการข้อมูลของพนักงานจำนวนมาก หากให้เห็นภาพง่าย ๆ การจ้างงานพนักงานใหม่ซัก 1 คน จำเป็นต้องเก็บเอกสารมากมาย และหลายรูปแบบไฟล์ AI สามารถมาช่วยให้กระบวนการต่าง ๆ เหล่านี้ง่ายขึ้น ด้วยการสร้างความอัตโนมัติ ทั้งกรอกข้อมูลอัตโนมัติ และจัดการเก็บไฟล์ให้อยู่ในรูปแบบที่ต้องการได้

 

• สื่อสารกับพนักงาน

 

ระบบผู้ช่วยเสมือนจริงและแชทบอทที่ใช้เทคโนโลยี AI สามารถช่วยแบ่งเบาภาระงานของฝ่าย HR ในการตอบคำถามและให้ข้อมูลพื้นฐานแก่พนักงานได้ ทำให้ HR สามารถใช้เวลาไปกับงานที่มีความสำคัญและซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงสร้างความเป็นมาตรฐานของคำตอบ เพื่อป้องกัน Human Error และความไม่สอดคล้องกันได้

 

เช่น สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับนโยบายและสวัสดิการขององค์กร รวมถึงให้คำแนะนำเบื้องต้นในการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง ช่วยลดปริมาณงานกับเจ้าหน้าที่ HR ได้โดยตรง

 

• บริหารและเป็นตัวช่วยในการทำงาน

 

เช่น การนัดประชุมทั้งภายใน และภายนอกองค์กร หากมีผู้เกี่ยวข้องเป็นระดับผู้บริหาร อาจทำให้พนักงานใช้เวลาหา Slot ที่ว่างตรงกันยาก หรือบางทีมีการเปลี่ยนแปลงเวลาบ่อยครั้ง ซึ่งเรื่องเช่นนี้ เกิดขึ้นเป็นประจำในองค์กรขนาดใหญ่

 

มีสถิติที่น่าตกใจ คือ โดยเฉลี่ยพนักงานแต่ละคนใช้เวลา 15 – 45 นาที ต่อการจัดการ 1 ประชุม (ยังไม่รวมเวลาการเข้าร่วมประชุม) เช่น การยิงนัดประชุม การเตรียมเอกสาร การเขียน Agenda ฯลฯ AI สามารถมาช่วยให้พนักงานประหยัดเวลาในส่วนนี้ได้อย่างมาก

 

 

3. ทำให้เรื่องการพัฒนาพนักงาน มีความเฉพาะบุคคลมากขึ้น (Personalized Learning and Development)

 

ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ AI จึงสามารถช่วยองค์กรในการวางแผนและออกแบบหลักสูตรการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงานได้อย่างตรงจุดและเหมาะสมกับความต้องการของพนักงานแต่ละคน

 

อีกทั้ง AI สามารถประเมิน Capability Gap ระหว่าง Capability ปัจจุบันเทียบกับตำแหน่งที่ทำงานอยู่ จากนั้นนำเสนอหลักสูตรการฝึกอบรม และเรียนรู้ที่เหมาะสมเพื่อพัฒนา Capability ที่จำเป็นสำหรับพนักงาน ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับพนักงานสำหรับการทำงานในอนาคต และในเส้นทางอาชีพที่วางแผนไว้ในองค์กร

 

สามารถสร้างความคุ้มค่า เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และดึงศักยภาพสูงสุดของพนักงานออกมาได้เร็วยิ่งขึ้น

 

 

4. การวางแผนกำลังคน (Workforce planning)

 

ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากของ AI จึงสามารถนำมาใช้ในการวางแผนกำลังคนขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย AI สามารถคาดการณ์อัตราการลาออกของพนักงาน ระบุตำแหน่งงานที่มีความเสี่ยงสูงต่อการขาดแคลนพนักงาน วิเคราะห์ความต้องการกำลังคนในอนาคต วิเคราะห์ปัจจัยที่สร้างแรงจูงใจของพนักงาน ฯลฯ

 

จากนั้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการวางแผนการสรรหา การพัฒนา และการรักษาพนักงานที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้องค์กรมีพนักงานที่เพียงพอ มี Capability ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจในระยะยาว และเป็นการวางแผนกำลังคนที่มีความยั่งยืนมากขึ้น

 

 

ประโยชน์หลักของการใช้ AI ในงาน HR

 

การนำ AI มาใช้ในงานด้าน HR นั้น มีประโยชน์หลายประการที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของกระบวนการต่าง ๆ ได้ ดังนี้

 

 

1. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ทำให้ HR มีเวลาโฟกัสกับเรื่องกลยุทธ์มากยิ่งขึ้น

 

ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว AI จึงช่วยลดระยะเวลาในการดำเนินงานด้าน HR ลงได้มาก ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรองผู้สมัครงาน การประเมินผลงาน หรือการวิเคราะห์ข้อมูล ที่เคยต้องใช้เวลานานจะถูกลดระยะเวลาลงอย่างมีนัยสำคัญ

 

 

2. เพิ่มความแม่นยำ และลดข้อผิดพลาดจาก Human Error ในงานบางประเภท

 

แน่นอนว่ามนุษย์ และ AI ต่างมีข้อดี ข้อด้อย ที่แตกต่างกัน และ AI สามารถช่วยปิดช่องว่างเรื่อง Human Error ได้ อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ามนุษย์ในงานบางประเภท

 

โดยเฉพาะงานที่ต้องประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งมนุษย์อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายจากความเหนื่อยล้าหรือความไม่ตั้งใจ แต่ระบบ AI จะทำงานได้อย่างสม่ำเสมอและแม่นยำ ช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้

 

ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล AI ช่วยให้ฝ่าย HR สามารถตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจน แทนที่จะใช้ความรู้สึกหรือประสบการณ์ส่วนตัว ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้

 

 

3. ลดภาระงานที่มีความซ้ำซ้อน

 

งานบางอย่างในฝ่าย HR เป็นงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ เป็นประจำ เช่น การกรอกข้อมูล การตอบคำถามพื้นฐาน หรือการจัดทำรายงาน การนำ AI มาใช้จะช่วยลดภาระงานเหล่านี้ลงได้มาก ทำให้พนักงาน HR มีเวลาไปทำงานที่สำคัญเชิงกลยุทธ์มากชึ้น เช่น การวางแผนกลยุทธ์ หรือการพัฒนาโปรเจคใหม่เพื่อสนับสนุนเป้าหมายขององค์กร

 

 

อนาคตของ AI ในงาน HR

 

เมื่อเทคโนโลยี AI มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด บทบาทของ AI ในงาน HR ก็จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต ตั้งแต่การวางแผนกำลังคน การสรรหาและคัดเลือก ไปจนถึงการพัฒนาและรักษาพนักงาน องค์กรควรเสาะหาโอกาสในการนำมาใช้ภายในองค์กร เพื่อเพิ่ม Productivity และความคุ้มค่าในระยะยาวอย่างยั่งยืน

 

 

สิ่งที่ HR ต้องตระหนักเกี่ยวกับเรื่อง AI

 

ประเด็นที่ HR ที่นำ AI มาใช้งานภายในองค์กร ต้องให้ความสำคัญ ได้แก่

 

• ต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับคุณค่าที่ AI สามารถมอบให้ในงาน และใช้ประโยชน์ให้ถูกทาง

 

• พัฒนา Capability ที่จำเป็นในอนาคตของงาน HR ซึ่งอาจแตกต่างไปจากเดิม ด้วยการเข้ามามีบทบาทมากขึ้นของ AI ตัวอย่างสิ่งที่ต้องพัฒนา เช่น
  • มองภาพธุรกิจให้กว้างมากขึ้น
  • ถามอย่างสร้างสรรค์ เพื่อใช้งานร่วมกับ AI
  • สื่อสารภายในองค์กร ให้เข้าใจถึงเทคโนโลยีใหม่ที่นำมาใช้ยกระดับการทำงาน
  • โฟกัสที่ ‘โอกาส’ ในการนำเทคโนโลยี หรือ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

 

• อีกสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก คือ การใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ทั้งต่อข้อมูลขององค์กร ข้อมูลพนักงาน มีจริยธรรมในการใช้ สร้างความโปร่งใส และมีแนวทางในการป้องกันและแนวทางการใช้งานที่สื่อสารออกมาอย่างถูกต้อง

 

• Change management หรือการบริหารการเปลี่ยนแปลงในการนำ AI มาใช้ภายในองค์กร

 

• ทำความเข้าใจถึงข้อจำกัด และความเสี่ยงของเทคโนโลยี และ AI

 

• รู้จักประเมิน ‘ความคุ้มค่า’ จากการใช้งาน

 

 

Final Thoughts เกี่ยวกับ โอกาส และการประยุกต์ใช้ AI ในงาน HR

 

AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการ HR ด้วยความสามารถในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล ทำให้กระบวนการต่าง ๆ มีประสิทธิภาพและความแม่นยำมากขึ้น

 

การนำ AI มาใช้ในงาน HR ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุนในระยะยาวเท่านั้นหากใช้อย่างถูกวิธี แต่ยังช่วยให้การตัดสินใจมีมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จาก AI นอกจากนี้ ยังช่วยลดภาระงานที่ต้องอาศัยการทำซ้ำ เพื่อให้พนักงาน HR มีเวลาไปทำงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม การนำ AI มาใช้ในองค์กรอาจส่งผลกระทบต่อบางตำแหน่งงาน จึงต้องมีการพัฒนา Capability ของพนักงานเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

 

#PragmaandWillGroup #AI #AIinHR #AIatWork #Organization #Business #Workproductivity #AIopportunity #BusinessOpportunity #FutureofWork

 

 

Reference:

 

AIHR. (2024). AI in HR: 2024 Guide to Opportunities and Applications in HR. Retrieved from AIHR

Eightfold AI. (2023). The State of AI in HR. Retrieved from Eightfold AI

Gartner. (2023). Artificial Intelligence in HR. Retrieved from Gartner

Grand View Research. (2021). Artificial Intelligence in HR Market Size, Share & Trends Analysis Report, 2021-2028. Retrieved from Grand View Research

IDC. (2022). IDC FutureScape: Worldwide Future of Work 2023 Predictions. Retrieved from IDC

 

 

ติดตามบทความที่เกี่ยวข้อง

• คุณภานุวัฒน์ แชร์แนวคิดในงาน Thailand HR Tech 2023 Read More
• Leadership & AI – ต้องผสมผสานอย่างไร สู่ New Age of Human Leadership Read More
• ทำเรื่อง Recruitment ให้เหนือชั้นขึ้น ด้วยโอกาสใหม่ทางเทคโนโลยี หรือ AI  Read More

หากต้องการติดต่อสามารถติดต่อ Pragma and Will Group ได้ที่ Contact